ฎีกาที่ ๑๐๘๘/๒๕๓๖
จําเลยมิได้แลกเช็คจาก ศ. เพียงแต่รับสมอ้าง จึงไม่เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายการที่จําเลยไปแจ้งความแก่พนักงานสอบสวนว่าเป็นผู้ทรงโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเช็คที่ไม่มีมูลความผิด
เพราะโจทก์มิได้ลงวันที่สั่งจ่ายเพื่อให้พนักงานสอบสวนดําเนินคดีแก่โจทก์อันจะแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษ
จึงเป็นความผิดตามมาตรา ๑๗๓ ประกอบมาตรา ๑๗๔ วรรคสอง
เมื่อการกระทําของจําเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๓ ประกอบมาตรา ๑๗๔
วรรคสอง ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๑๓๗
ซึ่งเป็นบททั่วไปอีกและไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๑๗๒
ข้อสังเกต ข้อเท็จจริงฎีกานี้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๑๓๗, ๑๗๒,
๑๗๓, ๑๗๔ เมื่อกรณียังไม่มีการกระทําความผิดอาญาเกิดขึ้น
ศาลจึงวินิจฉัยว่าเข้าองค์ประกอบการกระทําความผิดตามมาตรา
๑๗๓ โดยไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๑๗๒
แต่ถ้าหากข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็นกรณีที่มีการกระทําความผิดเกิดขึ้นแล้วแต่แจ้งข้อความอันเป็นเท็จศาลก็พิพากษาว่าเป็นการกระทําความผิดตามมาตรา
๑๗๒ โดยไม่ผิดตามมาตรา ๑๗๓ ได้เช่นเดียวกัน
อ้างอิง : กฏหมายอาญา มาตรา1-58,107-208 (อ.ชาตรี สุวรรณิน) สมัยที่74
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น