สรุปประเด็น เก็งเนติ เน้นประเด็นสำคัญ ท่องพร้อมสอบ อัพเดท* |
ข้อ6 วิแพ่ง (คุ้มครองชั่วคราว)
วิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4
เตรียมสอบเนติบัณฑิต สมัยที่ 72
กรณีคุ้มครอง “จำเลย” ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๕๓ ใช้เฉพาะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น
มาตรา ๒๕๓ “ถ้าโจทก์มิได้มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานอยู่ในราช
อาณาจักร และไม่มีทรัพย์สินที่อาจถูกบังคับคดีได้อยู่ในราชอาณาจักร
หรือถ้าเป็นที่เชื่อได้ว่าเมื่อโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายจำเลย
อาจยื่นคำร้องต่อศาลไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนพิพากษาขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินต่อศาลหรือหาประกันมาให้เพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้
ถ้าศาลไต่สวนแล้วเห็นว่า
มีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุเป็นที่เชื่อได้ แล้วแต่กรณี
ก็ให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินต่อศาล หรือหาประกันมาให้ตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยจะกำหนดเงื่อนไขใด
ๆ ตามที่เห็นสมควรก็ได้
ถ้าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลตามวรรคสอง
ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
เว้นแต่จำเลยจะขอให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป หรือมีการอุทธรณ์ คำสั่งศาลตามวรรคสอง”
หลักเกณฑ์ตามมาตรา ๒๕๓ มีดังต่อไปนี้
๑. “จำเลย” มีสิทธิยื่น
๒. เหตุแห่งการยื่น ซึ่งหากเข้าเหตุใดเหตุหนึ่งจำเลยก็มีสิทธิขอได้ดังต่อไปนี้
๒.๑ โจทก์มิได้มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานอยู่ในราชอาณาจักร และไม่มีทรัพย์สินที่อาจถูกบังคับคดีได้อยู่ในราชอาณาจักร หรือ
๒.๒ เป็นที่เชื่อได้ว่าเมื่อโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียม และค่าใช้จ่าย
๓. ยื่นก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา
เจาะหลักประเด็นสำคัญที่น่าออกสอบ
๑. ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองจำเลยตามมาตรา
๒๕๓ โดยให้โจทก์ วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ในกรณีนี้คำสั่งดังกล่าวย่อมมีผลอยู่ตลอดจนกว่าคดีนั้นจะถึงที่สุด
ทั้งนี้แม้คดีในเนื้อหาศาลจะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี แต่โจทก์ก็ยังคงมีหน้าที่ต้องวางเงินตามคำสั่งศาล
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๘๗/๒๕๒๙ (เน้น*) ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๕๓ ย่อมมีผลอยู่จนคดีถึงที่สุด แม้ต่อมาศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ก็ตาม
แต่เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด โจทก์ก็ต้องวางเงินตามที่ศาลกำหนด
สรุป คดีนี้เป็นเรื่องที่มีการอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวตามมาตรา
๒๕๓ และศาลฎีกาพิพากษาคุ้มครองจำเลย แต่เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวแล้ว
ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาในเนื้อหาคดีให้โจทก์ชนะคดีจำเลย
เพียงแต่คดียังไม่ถึงที่สุด
โจทก์ไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับเรื่องวิธีการชั่วคราว
ก็จะเห็นได้ว่าในกรณีที่จำเลยขอคุ้มครองชั่วคราวตามมาตรา ๒๕๓ นี้ หากคำสั่งถึงที่สุดให้โจทก์ต้องวางเงินประกันตามคำขอของจำเลย
แม้โจทก์จะชนะคดีในเนื้อหา แต่หากคดีในเนื้อหายังไม่ถึงที่สุด
โจทก์ก็ต้องวางเงินตามคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราว
๒. การร้องขอคุ้มครองชั่วคราวตามมาตรา
๒๕๓ กฎหมายไม่ได้บัญญัติให้ทำเป็นคำขอฝ่ายเดียว
และยังได้บัญญัติให้ต้องทำการไต่สวนด้วย
ฉะนั้น
กรณีจึงอยู่ในบังคับมาตรา ๒๑ (๒) และ (๔) นั่นคือ ศาลจะมีคำสั่งโดยมิได้ให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมีโอกาสคัดค้านก่อนมิได้ อีกทั้งศาลต้องไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงตามที่จำเลยกล่าวอ้างเสียก่อน
เว้นแต่โจทก์รับข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว***
คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๑๕๕/๒๕๒๖***
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความแพ่ง มาตรา ๒๕๓ ใช้คำว่า
โจทก์ไม่ใช่ผู้อยู่ในอำนาจศาล “หรือ” ถ้ามีเหตุแน่นแฟ้นอันเป็นที่เชื่อได้ว่าเมื่อโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหลาย
หาได้ใช้คำว่า “และ” ไม่ จึงอาจเป็นกรณีหนึ่งกรณีใดก็ได้
ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำฟ้องและคำร้องของโจทก์ว่าตัวโจทก์อยู่ที่
ประเทศซาอุดิอาระเบีย จึงฟังได้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้อยู่ในอำนาจศาล
ดังนั้น แม้จำเลยมิได้นำสืบว่าโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียม
และค่าใช้จ่ายศาลก็มีคำสั่งให้โจทก์วางประกันตามคำร้องของจำเลยได้
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๐๗/๒๕๓๐ การไต่สวนตามประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๓ วรรคสอง นั้น
หมายถึงการไต่สวนถึงเหตุที่ทำให้มีการร้องขอให้โจทก์วางเงินซึ่งมีอยู่ ๒ เหตุ คือ โจทก์ไม่ใช่ผู้อยู่ในอำนาจศาลเหตุหนึ่ง
หรือถ้ามีเหตุอันเป็นที่เชื่อได้ว่าเมื่อโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียม
และค่าใช้จ่ายอีกเหตุหนึ่ง
เมื่อจำเลยร้องขอให้โจทก์วางเงินประกันโดยอ้างเหตุว่าโจทก์มีภูมิลำเนาในประเทศอังกฤษ ไม่ใช่ผู้อยู่ในอำนาจศาล และโจทก์ยอมรับในคำแถลงคัดค้านแล้วว่าโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศอังกฤษ จึงไม่มีความจำเป็นที่ศาลชั้นต้น
จะต้องทำการไต่สวนอีก
จำนวนเงินที่ศาลจะสั่งให้โจทก์วางประกันนั้นตามมาตรา
๒๕๓ วรรคสอง ดังกล่าว บัญญัติให้ศาลกำหนดจำนวนเงินที่จะให้โจทก์วางประกันรวมตลอดทั้งระยะเวลาและเงื่อนไข
ตามที่เห็นสมควร จึงไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนอีกเช่นกัน ศาลชอบที่จะกำหนดจำนวนเงินประกันไปตามที่เห็นสมควร
โดยคำนึงถึงความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา
๑๖๑ และอัตราค่าทนายความท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
อ้างอิง : คำบรรยายเนติฯ วิ.แพ่ง ภาค4 อ.สมชาย จุลนิติ์
-----------------
แนะนำ :-
- ทีเด็ด*ถอดเทปพร้อมเน้นประเด็น สรุปย่อ เก็งท่องพร้อมสอบ เตรียมสอบเนติฯ ภาค 2 สมัยที่ 72 อัพเดท ที่ https://www.lawsiam.com/?name=thaibar2
- ร่วมสนับสนุนเว็บไซต์ ดาวน์โหลดข้อมูลเตรียมสอบ กลุ่มวิแพ่ง - วิอาญา เก็งพร้อมสอบ พร้อมเก็บตก อัพเดท รายละเอียด ที่ https://www.lawsiam.com/?file=donate